Pattaya ~ พักผ่อน

          ออกเดินทางก็สายมากแล้วกว่าจะตื่นกันได้ เราเลยบอกกันว่าชิวๆ ไม่มีแผน ถึงเมื่อไหร่ ก็เที่ยวเมื่อนั้น ฮ่าๆ เราเดินทาง โดยใช้เส้นทาง ไปทางถนนพระรามสอง ไปออกวงแหวนรอบนอก แล้วยิงยาววววว ไปเรื่อย แป๊บเดียว ถึง พัทยา แล้วววว ไวจัง
         ไม่รอช้ากว่าเราจะถึงพัทยาก็ บ่ายโมงแล้ว เราเลยไปหาที่กินกันก่อนเข้าโรงแรม สรุปลงเอยว่าเราจะไปลองส้มตำปูม้า ที่ร้านป้าประไพ ชื่อดังของพัทยา พอถึง คนหรอเนี่ย เยอะโครต ต้องรอคิว เราโชคดีมากันน้อยเลยได้นั่งก่อน ด้วยความหิวจึงไม่ได้ถ่ายรูปใดๆ ไปหาได้ตามรีวิว ทั่วไปเนอะ หุหุ
          พออิ่มกำลังดี จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ โรงแรม ibis pattaya ที่นี่เค้าให้ check in บ่ายสองโมง โครตจะช้าเลย แต่เราก็มาเวลานี้พอดี


       เราอยากไปดูอัลคาซ่า กันไม่เคยดู เลยรีบไปจองตั๋วก่อน นี่ขนาดเราไปจองกันตั้งแต่ บ่าย สามแล้วนะ ยังได้นั่งริมมมมมม ขอบเวทีเลย T,T ส่วนเวลาที่เหลือ เลยกะไปเดินเล่นชิวๆ ที่ RipLey's Believe it or not กัน ด้วยค่าตั๋วที่แพงมาก ถ้าต้องการเข้าดูทุกอย่าง จะเสียประมาณ คนละ 890 บาท เราว่ามันแพงไปเลย ของ packet แค่ 3 อย่าง สนนราคาที่ 580 บาทต่อคน ก็ยังแพง แต่ลองสักครั้งละกัน เราเลือกไปดูหนัง 4D โอเคเลย เราว่า เก้าอี้ ขยับเสมือนจิง อีกอันเป็นหุ่นขึ้ผึ้ง ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ แต่ก็เพลินได้ สุดท้ายเราไปลองเล่นเขาวงกต คือมันมืด จนบางทีมองไม่เห้นเลยออกไม่ถูก





     ตกเย็น เราไปกินอาหารทะเลกันที่ ชายหาดบางขุนเทียน ร้านลุงไสว อร่อยมาก บรรยากาศดี ราคาไม่แพงด้วยนะ



       จากนั้นเราก็รีบไปรอดู อัลคาซ่า โชว์กัน ด้วยราคา คนละ 300 บาท แต่เค้าว่ากันว่า ทิฟฟานี่โชว์ ดีกว่า แต่เราว่ามันก็แพงกว่า เท่านึงเลยอะ เลยไม่ไปดีก่า น่าจะเหมือนๆ กันนะเราว่า




       วันต่อมา เรามีเวลาทั้งวันแล้วก็ไม่รีบกลับกทม ด้วย เราเลยไป สวนนงนุชกัน ค่าเข้า คนละ 100 บาทแนะ แต่เค้าใหญ่โตแล้วก็สวยงามจิงๆ


เดินถ่ายรูปกันเหนื่อยจิงๆ สุดท้าย ขอขึ้นรถชมให้ทั่วเลยละกัน คนละ 60 บาท

จากนี้เราก็เดินทางกลับ กทม ด้วยความเหนื่อยล้า มากมาย หิวโหย ฮ่าๆ

Shaing Hai 3 day [ World Expo 2010 ]

    ขอขอบคุณ ทางบริษัท Freewill ที่ได้จับฉลากชื่อเราให้ได้ไปเที่ยวฟรีๆ ที่ เซี่ยงไฮ้ 3 วัน 2 คืน (ไม่นับรวมนอนที่สนามบิน และบนเครื่องอีก 2 วัน )
    วันแรก เริ่มออกเดินทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาตี 2 ถึง เซี่ยงไฮ้ ประมาณ 7 โมงเช้าของที่โน้น แต่เวลาที่ประเทศไทย กับ เซี่ยงไฮ้ ต่างกัน 1 ชม ของเซี่ยงไฮ้จะเร็วกว่าประเทศไทย พอถึงสนามบิน ภูตง เซี่ยงไฮ้ เราก็ต้องซักแห้งกันเลย เพราะไม่มีเวลาอาบน้ำ ต้องรีบออกเดินทางไปเที่ยวกันเลย สถานที่แรกที่เราไปนั้น เป็นขอคอหอยสูงมากๆ ไม่สามารถถ่ายรูปจากกล้องเราครบหากยืนใต้หอคอยแห่งนี้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า หอไข่มุข ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้เลยก็ว่าได้ มีความสูง 468 เมตร มีลิฟท์ที่มีความไวสูง ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิว ที่เราสามารถมองเห็นด้านล่างด้วย เพราะพื้นเป็นกระจกใส


จริงๆ หลังจากที่เราชมวิวเสร็จแล้วนั้น คงจะลงไปอีกชั้นนึงซึ่งเป็นที่ชม หุ่นขึ้ผึ้ง แต่เสียดายที่เจอ พวกรัฐมนตรี ของสักประเทศมาพอดี เราเลยติดแง๊ก ลงไปก็ไม่ได้ จะไปต่อไปก็ไปไม่ถึง ....

เมื่อเราลง มาได้ ก็ใช้เวลานานทีเดียว ทุกคนหิวกันมากมาย แต่ทางทัวร์ คงรู้ดี เลยจัดบุฟเฟ่ อาหาร นานา ชาติไว้รอเราที่ โรงแรม จาร์กัวร์ ไปจีนทั้งทีเราก็ต้องวิ่งเข้าหาอย่างแรกเลย คือ หูฉลาม เป๋าฮื้อ แต่แค่นั้นไม่อิ่มหรอกเพราะยังมีทั้ง ซีฟู้ด อาหารญี่ปุ่น เนื้อแกะ สเต็ก และ ไวน์ รวมทั้ง ไอครีม อีกด้วย



ตอนเย็น มีโปรแกรม มาดูกายกรรม มาถึงจีนแล้วไม่ดูไม่ได้เลยนะคะ  แต่เค้าห้ามถ่ายรูปเลยได้มาแค่นิดหน่อย



จากนั้นก็เข้าที่พัก เพื่อนอนเอาแรงไปงาน World Expo 2010 ในวันพรุ่งนี้ต่อ .....



       วันที่สอง ต้องตื่นแต่เช้ามากๆ เพราะต้องรีบไปงาน ไม่งั้นคนจะเยอะมากที่งาน World Expo 2010
ไปถึงก็ยืนรออยู่นาน กว่า ไกด์สุดหล่อของเราจะไปซื้อตั๋ว มาได้ แล้ววันนี้ ก็มีเวลาทั้งวันจนถึงเกือบ 6 โมงเย็นได้ คนเยอะมาก กว่าจะได้เข้าแต่ละประเทศได้นั้น ต่อคิวนานมาก งั้นเราไม่รอช้า เลยเข้า ประเทศไทย ของเราก่อนเลย เพราะจะมีช่องทางพิเศษ ที่เข้าได้เฉพาะคนไทยก่อน เย้ๆ ... ของประเทศไทยเรา ทำดีมากๆ มีทั้งหมด 3 ห้องใหญ่ๆ เล่าเรื่องราวและความเป็นมาของประเทศไทย โดยที่ ห้องสุดท้ายประทับใจมาก เป็น 4D ต้องใส่แว่น 3 D ดูแล้วจะมีกลิ่นมาประกอบเป็น 4D อิอิ  เราว่า จาก 3 ประเทศที่เข้าไปดูมา ประเทศไทยเจ๋งสุดเลยยยย


ประเทศไทย Thailand



ประเทศนิวซีแลนด์ New ZeaLand



ประเทศตุรกี Turkey



และประเทศอื่นๆ ที่ถ่ายแค่ป้ายมาเองอิอิ





ตอนเย็น ได้ไปชมวิว ยามค่ำคืนของ เซี่ยงไฮ้ต่อ (เหนื่อยได้อีก ) โดยทางบริษัททัวร์ Chill out ใจดี เพิ่มพิเศษให้ โดยให้นั่ง อุโมงค์เลเซอร์ข้ามฝั่ง ด้วย ขอขอบพระคุณยิ่ง ได้ของแถมก็งี้แหละ ดีใจ อิอิ





วันที่สาม วันนี้เราต้องออกไปนอกเมืองเซี่ยงไฮ้ กัน ไปเมือง โจจวง เป็นเมืองเก่าแก่ที่ยังคงรูปแบบ ดั้งเดิมอยู่ แล้วที่นี่เราจะไปล่องเรือ ชมวิวกันเย้....แต่ของขึ้นชื่อที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ความเก่าเท่านั้น ยังมีความอร่อยอีกด้วย นั่นคือ ขาหมู อร่อย สุโค่ยยย เลยทีเดียว ซื้อกลับเมืองไทยมา สองขา แพ็คให้อย่างดี คุณไกด์ใจดี พาไปร้านที่อร่อยที่สุดในเมืองนั้น


กลับจากเมือง โจจวง เราก็ได้เวลาช้อปปิ้งกันแว๊ววววว ...... แล้วหลังจากนั้นก็ เตรียมตัวกลับประเทศไทย ไปสนามบินภูตง โดย รถไฟฟ้า ที่เร็วเป็นที่สอง รองจาก ญี่ปุ่น



เร็วมั้ยละ 301 Km/hr เลยนะ

จากนั้นก็รอขึ้นเครื่อง กลับประเทศไทย อันเป็นที่รัก .....







ขอขอบคุณ ผู้อุปการะคุณ ทุกทั้ง ตั้งแต่ Freewill Solutions ทำให้ดวงดีๆ ของข้าพเจ้าได้เดินทางฟรี
และ true internet ที่จัดให้ลูกค้า และ บริษัททัวร์ Chill out นะคร้า